"กวางนั้น เปรียบเหมือนสัตว์ป่าไม่ต้องการอะไรมากนัก ขอเพียงให้มีที่บังแดด หรือมีต้นไม้ไว้บ้างได้แล้ว มีรางน้ำที่สะอาด มีรางหญ้าสมบูรณ์แบบทุกอย่างลงตัวหมด"
สำหรับอาหารเสริมนั้นจะให้เกลือเป็นหลัก โดยจะใส่ไว้ในคอกแล้วเมื่อกวางรู้ว่าตัวเองขาดก็จะมาเลียกินเอง
ส่วนอัตราการปล่อยเลี้ยงในลักษณะของการเลี้ยงแบบขัง ใช้พื้นที่ประมาณ 50 ตารางเมตร ต่อตัว แต่ถ้าเป็นแม่กวางอุ้มท้องและเลี้ยงลูกใช้พื้นที่ประมาณ 100 ตารางเมตร
จากประสบการณ์ที่เลี้ยงมา เจ้าของท็อปแลนด์ฟาร์มบอกว่า ฤดูฝน เป็นช่วงที่มีปัญหากับกวางมากที่สุด เพราะความชื้นมาก ยิ่งถ้าอยู่ในคอกที่จัดสภาพไม่ดี มีน้ำขังแฉะ โอกาสที่จะเกิดโรคปอดบวมก็มีได้เช่นกัน
"แต่ถ้าเราไม่สะเพร่า มีการดูแลเอาใจใส่จัดระบบดีแล้ว ปัญหาเรื่องโรคถือว่าน้อยมาก ที่เลี้ยงมามีการสูญเสียเนื่องจากการขนส่งเท่านั้น"
ในด้านการผสมพันธุ์ ถ้าเป็นกวางรูซ่า จะสามารถผสมพันธุ์ได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้าเป็นกวางพันธุ์ฟอลโล จะมีช่วงผสมพันธุ์ในฤดูหนาว และไปคลอดลูกในช่วงฤดูฝน
สำหรับเรื่องของการคลอดลูกของกวางนั้นจะปล่อยธรรมชาติ ทั้งนี้พี่กล้วยบอกว่า มีประสบการณ์แล้ว คลอดลูกออกมา 10 ตัว แล้วแยกมาเลี้ยง ปรากฏว่าตายไป 8 ตัว แต่ถ้าปล่อยให้แม่เลี้ยงเองจะรอดทั้งหมด เพราะกวางนั้นเป็นสัตว์ที่มีอยู่กันเป็นฝูง มีอะไรเกิดขึ้นจะไม่ทิ้ง ช่วยเหลือกัน อย่างเวลาคลอดแล้ว จะช่วยกันดูลูกอ่อนเอง
|