We sell only a perfect car
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 
เทคนิคการขับออฟโรค  เบื้องต้น
 
การขับรถแบบออฟโรด  จำเป็นต้องเจอเส้นทางโหดๆ ถ้าตำแห่งการนั่งที่ไม่ดีเมื่อรถเกิดการสะเทือนตัวเองียงไปเอียงมา  หมายความว่า ตัวเราจะเคลื่อนไหวจนไม่สามารถควบคุมรถได้เท่าที่ควร  ไม่ว่าจะเป็นพวกมาลัย  คันเร่ง  เบรก  หรือ คลัตซ์  ซึ่งมีความสำคัญ  การขับรพที่ดีควรเป็นไปอย่าราบเรียบ  เมื่อเริ่มรู้สึกเครียดกับการควบคุมบังคับรพ  แสดงว่าเราใช้ความเร็วสูงเกินไป  ควรลดความเร็วลงบ้าง  รถทุกคัน  ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิด จะต้องมีความสามารถในการตอบสนองจากผู้ขับด้วยกันสามประการคือ  การเร่ง  การเบรก  และการเลี้ยว  มันเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง   การขับขี่นั้นควรเป็นไปอย่างนุ่มนวล  และราบเรียบ
 
 
 
การเร่ง
  

ค่อยๆ เหยียบคันเร่ง  เพื่อป้งกันล้อหมุนฟรี

การเร่งเครื่องแรงเกินไปจนกระทั้งล้อหมุนฟรี  จะมีผลเสีย  ซึ่งในบางครั้งล้ออาจจะจมลงในทราย  หรือโคลน  ซึ่งยากต่อการดึงขึ้น  หรือเกิดการสไลด์ลื่นไถลทำให้ยากต่อการควบคุม

กดคันเร่งคงที่  เพื่อรักษาระดับความเร็วที่ต้องการ  เป็นวิธีที่จะให้ตัวรถเคลื่อนไปด้วยความราบเรียบและนุ่มนวล  ตัวคันเร่งนั้น  เมื่อเราใช้เกียร์สโลว์จะมีผลการตอบสนองที่เร็วมาก  ด้วยเหตุนี้เราจึงควารเหยียบคันเร่งให้อยู่ในรอบเครื่องคงที่ตลอดเวลาที่ผ่านอุปสรรคต่างๆ  ไม่จำเป็นต้องใช้รอบเครื่องสูงแต่ประการใด  ถ้าเครื่องมีกำลังดีแล้วเพียงแค่อรอบต่ำ (1,000 - 2,000 รอบ) ก็พอ

เราจะเบารถให้ใช้เบรกแทนโดยไม่ต้องถอนคันเร่ง  ถ้าเป็นรถเกียร์อัตโนมัติ ควรใช้เท้าซ้ายเหยียบเบรกแทนที่จะให้เท้าขวา  ถ้าเป็นรถเกียร์ธรรมดาก็จะต้องใช้เท้าขวาในการเหยียบเบรกอยู่เหมือนเดิม

ถอนคันเร่งเบาๆ  เพื่อให้การลดความเร็วเป็นไปแบบนุ่มนวล

ถ้าจำเป็นที่จะต้องลดความเร็วลง  ให้ใช้วิธีค่อยๆ  ผ่อนคันเร่งอย่างช้าๆ ไม่ควรถอนคันเร่งอย่างฉับพลัน เพราะจากอัตราทอดของเฟือง  จะทำให้ตัวรถเกิดการกระตุก  และสร้างปัญหาขึ้นได้
การเบรก
 

พยายามเบรกโดยไม่ให้ล้อมีการลื่นไถล 

พยายามเบรกอย่างนุ่มนวล  เพราะถ้าเบรกรุ่นแรง  อาจทำให้ล้อเกิดอาการล๊อคตาย  และเกิดการลื่นไถล ซึ่งอาจเป็นอันตรายอย่างยิ่ง * ขึ้นอยู่กับแรงปัดของแต่ละเครื่องยนต์

ควรเบรกก่อนที่จะถึงสิ่งกีดขวางล่วงหน้า เพื่อเป็นการชะลอรถก่อน ไม่ควรเหยียบเบรกอย่างกะทันหันเพราะจะทำให้  เกิดอาการล้อล๊อคได้  ทำให้รถเสียการทรงตัว  หรืออาจจะไม่ทันการ ก่อให้เกิดอันตรายขึ้นได้ 

กดคันเบรกคงที่เมื่อบังคับรถ   เมื่อขับรถลงจากเนินลาดชันให้ได้ตามทิศทางที่ต้องการ

 
การเลี้ยว

ควรหลีกเลี่ยงการเล่นกับพวกมาลัย โยกพวกมาลัยไปมา

ไม่ควรหักเลี้ยวมากจนเกินความจำเป็น  การหมุนพวกมาลัยมากเกินไปจะทำให้เกิดการหลงไม่ทราบลักษณะการหักเลี้ยวของล้อ  ก่อให้เกิดปัญหากับการบังคับทิศทาง

ถ้ารถเริ่มมีการไถลด้านข้างให้ค่อยๆ หมุนพวกมาลัยตามทิศที่ลื่นไถลและค่อยๆ ถอนเท้าออกจากคันเร่ง  ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดการหักขืนของตัวรถ ซึ่งจะทำให้เกิดการลื่นไถลมากขึ้นจนยากต่อการแก้ไข  และอาจะเป็นเหตุให้ตัวรถเกิดการพลิกคว่ำก็ได้  ควรการะทำด้วยความนุ่มนวลราบเรียบ

หลีกเลี่ยงการโยกไหล่และศีรษะเมื่อหมุนพวกมาลัย เพราะเมื่อตัวเรานิ่งอยู่กับที่เราสามารถบังคับรถได้ง่าย  แต่ถ้าตัวเราโยกหรือศีรษะไม่นิ่ง ก็จะก่อให้เกิดปัญหากับการควบคุมบังคับ  ซึ่งจะทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ง่าย  โดยเฉพาะยามขับรถบนเส้นทางขรุขระเป็นหลุมบ่อ

 
อย่างไรก็ตาม  ผู้ขับรถควรกำหนดเส้นทางที่จะไปไว้ล่วงหน้า  เพื่อจะได้ทราบปัญหาและอุปสรรคและหาทางแก้ไขปัญหาล่วงหน้า หรือปรับสภาพการขับให้เหมาะสม เช่น ต้องขับรถไต่ข้ามขอนไม้  เพื่อดูล้อหน้าว่าอยู่ตรงหรืออยู่บนขอนไม้หรือไม่
 
สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงพื้นฐานขั้นต้นเท่านั้นเอง  ยังมีอุปสรรคและเหตุการณ์ให้เจอกันจริงๆ  อีกมากมาย  จึงต้องอาศัยความรู้  ความชำนาญ  และประสบการณ์อีกมากดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ " การขับรถไม่ควรประมาณอย่างเด็ดขาด "