นอกจากความรู้ดังกล่าวข้างตนแล้วจะต้องมีความรู้ถึงภาวะคุกคามต่างๆ ที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ทั้งในสถานการณ์ปกติและสถานการรบ เช่น การรบในพื้นที่ที่มีการระบาดของมาลาเรีย เป็นต้น ดังนั้นการป้องกันควบคุมโรคจึงมีความจำเป็นต่อสุขภาพของกำลังพล การส่งกลับรวมทั้งการรักษาพยาบาลการบาดเจ็บที่เป็นผลมาจากการปฎิบัติการทางทหาร แพทย์จะต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดทีมีต่อสุขภาพกำลังพลโดยรวมมากกว่าปัญหาส่วนบุคคล
ปัญหาจากสิ่งแวดล้อมเป็นพิษกับกำลังพลในกองทัพยังไม่เป็นที่คุ้นเคยเหมือนกับปัญหาหรือโรคที่เกิดจากการประกอบอาชีพของพลเรือน ตัวอย่างเช่น กำลังพลปฎิบัติหน้าที่ในยานหุ้มเกราะซึ่งมีพื้นที่จำกัด การระบายอากาศไม่ดีและอาจได้รับก๊าฐคาร์บอนมอนนอกไซด์ที่เกิดจากท่อไอเสียของรถหรือในกรณีที่มีการปะทะก็อาจจะได้รับก๊าซพิษที่เป็นผลมาจากการยิงหรือจากระเบิด ในการปฎิบัติงานในสภาพของความดันบรรยากาศต่ำเช่น ในเครื่องบินปฎิบัติการบนภูเขาสภาพความดันบรรยากาศสูง เช่น ปฎิบัติการใต้น้ำ หรือ ในสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมเหล่านี้จะพบได้สูงกว่าในพลเรือน
ในพลเรือนการทำงานภายใต้สิ่งแวดล้อมที่มีเสียงดัง เช่น ในโรงงานอุตสาหกรรมที่ไม่มีระบบการป้องกันเสียงดังจะทำให้สูญเสียการได้ยิน ในขณะที่ทหารที่ปฎิบัติการในพื้นที่การรบที่มีการใช้ระเบิดและอาจุธปืนก็อาจเป็นสาเหตุสำคัญทำให้สูญเสียการได้ยินเช่นกัน การพัฒนาอาวุธในปัจจุบันทำให้มีอาจุธที่มีศักยภาพในการทำลายล้างสูง การนำเอาสารเคมี เชื้อโรค และพลังงานนิวเคลียร์มาใช้เป็นอาวุธ เพื่อทำลายล้างคู่ต่อสู้ จะส่งผลกระทบโดยตรงกับกำลังพลในกองทัพ ทำให้เกิดการบาดเจ็บและการตายเป็นจำนวนมาก ผู้เชี่ยวชาญในด้านเวชศาสตร์ทหารจำเป็นต้องมีความรู้ในการดูแลผู้บาดเจ็บจากอาวุธดังกล่าว
แพทย์ทหารต้องมีทักษะและความรู้ทั้งในด้านเวชกรรมป้องกัน
องค์ประกอบของวิชาเวชศาสตร์ทหาร
|
ทางทหารวิชาเวชปฏิบัติการยุทธ
เป็นการศึกษาเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยในสนามซึ่งเป็นภารกิจปละการปฏิบัติหน้าที่ของนายสิบพยาบาลกองร้อยที่ต้องสามารถดำเนินการคัดแยก ปฐมพยาบาลเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเจ็บในสนามได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ฝึกลักษณะการเป็นผู้นำในการนำหน่วยขนาดเล็กและสามารถปฏิบัติภารกิจทางยุทธวิธีภายใต้ สถานการณ์รบด้วยอาวุธนิวเครีย์ ชีวะ เคมี |
|
วิชาเวชกรรมป้องกันทหาร
เป็นการศึกษาเกี่ยวกับการสุขาภิบาลสนาม ในค่ายพักชั่วคราว การให้สุขศึกษาเกี่ยวกับการทำน้ำให้สะอาด โรงเลี้ยงและส่วมที่ถูกสุขลักษณะ การกำจัดขยะและการควบคุมแมลงพาหะโรคทั้งในที่ตั้งปกติและในสนามรวมทั้งเป็นการศึกษาเกี่ยวกับการฝึกการวางแผนด้านเวชกรรมป้องกันภายในหน่วยทหาร
|
|
วิชาสรีรประยุกต์
เป็นการศึกษาการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาทั้งภายในและภายนอกร่างกายของทหารในสภาวะแวดล้อมต่างๆ ขณะปฏิบัติหน้าที่ภาคพื้นดิน การปฏิบัติการใต้น้ำ การปฏิบัติการทางอากาศ ภายใตภาวะสงครามนิวเครีย์ ชีวะ เคมี โดยผสมผสานความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐาน (basic science) ความรู้ทางคลินิก(military environment) สามารถให้การวินิจฉัยการดูและและการบำบัดรักษา รวมทั้งการ ป้องกันโรคและการวินิจฉัยการดูและและการบำบัดรักษา รวมทั้งการป้องกันโรคและการพื้นฟูสมรรถภาพของทหาร |
|
วิชาการปฐมพยาบาลในยุทธวิธี
เป็นการผสมผสานทั้งวิชาแพทย์และวิชาทหารเข้าด้วยกัน โดยเนื้อหาวิชาจะเน้นในเรื่องมาตรฐานการช่วยชีวิตผู้ป่วยจากอุบัติเหตุ (trauma life support) และผู้ป่วยเจ็บจำนวนมาก (mass casualty care) การช่วยชีวิตชั้นสูง (advance cardiac life support) การจัดตั้งหมวดเสนารักษ์ การให้บริการทางการแพทย์ระดับกองพล ระดับกองทัพ ระดับเขตหลัง (เขตภายใน) การบริการแพทย์ในยุทธวิธี การวางแผนทางการแพทย์และข้อพิจารณาทั่วไปการบริการแพทย์อื่นๆ ในการสนับสนุนการรบ และการป้องกันประเทศในสถานการณ์ต่างๆ |
การบริหารทางการแพทย์ในกองทัพบก
(Medical Service in Royal Thai Army)
การบริการทางการแพทย์ในกองทัพเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติการสนับสนุนการช่วยรบ โดยมีกรมแพทย์ทหารบกเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ แพทย์ทหารผู้ปฏิบัติหน้าที่ในกองทัพจึงจำเป็นต้องรู้ถึงภารกิจของกรมแพทย์ทหารบก ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะ คือ ภารกิจโดยทั่วไป และภารกิจในยุทธบุริเวณ ภารกิจลักที่สำคัญของการแพทย์ทหารบกคือ "อนุรักษ์ (สงวน) กำลังรบ" (to conserve the fighting strength) โดยมีหน้าที่คัดเลือกผู้มีร่างกายและจิตใจสมบูรณ์เข้ารับ |
|
ราชการทหารป้องกันควบคุมโรคส่งเสริมสุขภาพ การส่งกลับ การรักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วยอย่างถูกต้อง รวดเร็วและปลอดภัย การส่งกำลังซ่อมบำรุง สิ่งอุปกรณ์แพทย์ การฝึกศึกษาของกำลังพลเหล่าแพทย์ |
|
การบริการทางการแพทย์โดยทั่วไป
ของเขตความรับผิดชอบปและหน้าที่ในการให้บริการทางแพทย์โดยทั่วไป ประกอบไปด้วยหารให้คำแนะนำปรึกษาแก่ผู้บังคับบัญชาและกรมฝ่ายอำนวยการเกี่ยวกับกิจการแพทย์ทหารบก พร้อมทั้งเสนอ นโยบาย วางแผน อำนวยการ ประสานงาน กำกับ และดำเนินการเกี่ยวกับกำลังพล การข่าวยุทธการ การฝึกศึกษา การส่งกำลังบำรุงสายแพทย์ รวมทั้งโครงการและการประมาณ ฯลฯ |
การบริการทางการแพทย์ในยุทธบริเวณ
ในยุทธบริเวณจึงจัดให้มีการบริการทางการแพทย์ไว้ 4 ระดับ เพื่อความคล่องตัวในการบริการทางการแพทย์และความปลอดภัยของผู้รับและผู้ใช้บริการ ดังนี้คือ บริการทางการแพทย์ในระดับหน่วย ระดับกองพล ระดับกองทัพ และในเขตหลัง การบริการทางการแพทย์ในยุทธบริเวณประกอบด้วยงานด้านบริการสุขภาพให้แก่กำลังพล 5 ประการคือ |
|
1. การเวชกรรมป้องกัน (preventive medicine)
การบริการเวชกรรมป้องกันแก่กำลังพลในยุทธบริเวณจะเน้นการป้องกันโรคหรือภาวะที่เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยที่พบบ่อยในบริเวณนั้นๆ เช่น การดูแลสุขขาภิบาล สุขอนามัยส่วนบุคคล การป้องกันโรคติดต่อ การบริการน้ำในสนาม การปฏิบัติงานเวชกรรม
ป้องกันทำได้ในทุกระดับของการบริการทางแพทย์ในยุทธบริเวณ
2. การรักษาพยาบาล (hospitalization)
การดูแลระกษาผู้ป่วยเจ็บในยุทธบริเวณมีขั้นตอนต่างๆ ดังนี้
2.1. การดูแลรักษาโดยนายสิบพยาบาล ครั้งแรกแก่ทหารป่วยหรือบาดเจ็บจากเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฝึกมาแล้วโดยให้การปัจจุบันพยาบาล เช่น การห้ามเลือด
2.2. การรักษาพยาบาลเร่งด่วน (emergency medical treatment) ต้องใช้ความรู้ความชำนาญและการตัดสินใจทางการแพทย์ที่สูงขึ้น
2.3. การรักษาเพื่อช่วยชีวิตขั้นแรก (initial resuscitstion) ในขั้นการรักษานี้ต้องใช้ความชำนาญของชุดแพทย์และทันตแพทย์ สามารถให้เลือดทางเส้นเลือดได้เป็นต้น
2.4. การรักษาเพื่อช่วยชีวิต (resuscitative treatment) การให้การรักษาในขั้นนี้สภาพผู้ป่วยเจ็บต้องการวิธีการวินิจฉัยก่อนการผ่าตัด การเตรียมการผ่าตัด มีเจ้าหน้าที่ชุดผ่าตัดที่ทรงคุณวุฒิ เป็นต้น
2.5. การรักษาที่เฉพาะ (definitive treatment) เป็นขั้นที่จะทำให้ผู้ป่วยหายเป็นปกติโดยแพทย์ผู้ชำนาญสาขาในโรงพยาบาล
2.6. การดูแลรักษาในระยะพักพื้น (convales cent care) เป็นขั้นที่ผู้ป่วยได้รับการดูแลปรับสภาพร่างกายให้เข้มแข็งขึ้น จนแพทย์ลงความเห็นว่าหายจากการเจ็บป่วย
3. การส่งกลับผู้ป่วยเจ็บทางการแพทย์ (medical patient evacuation)
เป็นการส่งกลับผู้ป่วยเจ็บเป็นวิธีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจากสนามรบ ตำบลหรือหน่วยแพทย์ที่อยู่ในระดับหน้าสุดของยุทธบริเวณไปยังหน่วยพยาบาลต่างๆ
4. การส่งกำลังสายแพทย์ (medical supply)
ในสถานการรบหน่วยแพทย์จะไม่สะสมอุปกรณ์สายแพทย์ไว้จำนวนมากเพราะจะทำให้ขาดความคล่องตัวในการเคลื่อนย้าย ดังนั้นการจะต้องการอุปกรณ์เพิ่มเติมต้องกระทำในระหว่างกระบวนการส่งกลับ
5. บริการแพทย์อื่นๆ
เช่น การทันตกรรมและการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เป็นต้น | |