หน้าแรก | เกี่ยวกับบริษัท | ติดต่อเรา

 
 
แต่ละชนิดมีคุณสมบัติทางชีววิทยาและ ประโยชน์ต่อร่างกายแตกต่างกัน แอลฟา-โทโคเฟอรอล(alpha-tocopherol) เป็นวิตามินอีชนิดที่มีความ ว่องไวที่สุดและเป็น สารต้าน อนุมูลอิสระที่มี ประสิทธิภาพสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลายของสารอนุมูลอิสระที่ เกิดจาก กระบวนการเมตาบอลิซึมของเซลล์ในร่างกายสารอนุมูลอิสระจะทำลายเซลล์ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรค หลอดเลือดหัวใจ และมะเร็ง การศึกษายังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องเพื่อศึกษาว่า วิตามินอีมีความ สามารถ ช่วยป้องกันหรือชะลอการ เกิดโรค เรื้อรังเหล่านี้ได้หรือไม่ กะทิธัญพืช ตรา ฟอร์แคร์ - มีวิตามินอีสูง กะทิธัญพืช ตรา ฟอร์แคร์ มีวิตามินอีจากธรรมชาติสูงถึง 5.1 มิลลิกรัม/ลิตร หรือ 40% ของ ปริมาณที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน ในขณะที่กะทิไม่มีเลย
 
จากการศึกษาเบื้องต้นทำให้มีความเชื่อกันอย่างกว้างขวางว่า   วิตามินอีอาจมีส่วนช่วยในการป้องกัน หรือ   ชะลอโรค หัวใจและหลอดเลือด โดยการยับยั้งปฏิกิริยาออกซิเดชั่น  ของ LDL-โคเลสเตอรอล นอกนี้วิตามินอีอาจช่วยป้องกันการก่อตัวของลิ่มเลือดซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจขาดเลือด เฉียบพลัน การ  ศึกษาแบบสำรวจถึงความสัม พันธ์ของระดับ  วิตามินอี ที่บริโภคกับการลดลงของอัตราการเกิดโรคหัวใจในพยาบาลประมาณ 90,000 คนบ่งชี้ว่าอุบัติการณ์ของการเกิดโรค  หัวใจลดลง   30-40   เปอร์เซ็นต์  ในพยาบาลที่ได้รับวิตามินอีจากอาหารและอาหารเสริม
 
ซึ่งจะทำให้เกิดโรคเรื้อรังเช่น มะเร็ง และ วิตามินอียังช่วยยับยั้งการสร้างสารไนโตรซามีน ซึ่งเป็นสารก่อ มะเร็งที่ถูกสร้างขึ้นในกระเพาะอาหารจาก การบริโภคสารพวกไนเตรต นอกจากนี้วิตามินอีอาจช่วย  ป้องกันมะเร็งโดยการส่งเสริมภาวะภูมิต้านทานของ ร่างกายอีกด้วยการศึกษาเกี่ยวกับ ความสัมพันธ์ของวิตามินอีกับอุบัติการณ์ของมะเร็งในมนุษย์ยังสรุปไม่ได้ มีบาง หลักฐานแสดงว่าการบริโภควิตามินอีในปริมาณสูงจะช่วยลดอุบัติการณ์ของมะเร็งเต้านมและมะเร็งต่อมลูกหมากอย่างไรก็ตาม การทดสอบ ผลของวิตามินอีต่ออุบัติการณ์ของมะเร็งเต้านมในหญิงวัยหมดประจำเดือนในกลุ่ม ตัวอย่างกว่า   18,000 คน ในนิวยอร์กไม่ได้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง   การบริโภควิตามินอีกับการลดความเสี่ยงของการ เกิด มะเร็งเต้านมแต่อย่างใดการศึกษาในผู้หญิงในไอโอวาบ่งชี้ว่าการบริโภควิตามินอีมากขึ้น จะช่วยลดความเสี่ยงของ  การเกิด มะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีอายุต่ำกว่า 65  ปี
ส่งผลให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการพิการและตาบอด ในผู้สูงอายุ ได้มีการศึกษาเกี่ยวกับสาร ต้านอนุมูล อิสระในการชะลอหรือป้องกันการเกิดโรคต้อกระจก จากการ ศึกษาแบบสำรวจแสดงให้เห็นว่า ความใส ของเลนส์ตาซึ่งใช้ในการวินิจฉัยโรคต้อกระจก ในคนที่ได้รับวิตามินอีอย่างสม่ำเสมอและคนที่มีระดับวิตามินอีในเลือดสูงจะมีความใส มากกว่าคนทั่วไป
บริษัท ฟอร์แคร์ จำกัด  252, 254 ถ.ร่มเกล้า มีนบุรี กรุงเทพฯ 10510 โทร 0-2919-4460-2 แฟกซ์ 0-2919-4463 E-mail : info@4care.co.th
Copyright Reserved by 4Care Co.,Ltd.