ข้อพิจารณาในการเลือก ซื้อเครื่องปรับอากาศ มีรายละเอียดที่ควรสนใจ ได้แก่ 
  1. คอมเพรสเซอร์ ให้ตรวจดูว่าเป็นคอมเพรสเซอร์ใหม่ รวมทั้งมีการติดตั้งโอเวอร์โหลด (Overload) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ สำหรับตัดการทำงานของคอมเพรสเซอร์ในกรณีที่กระแสไฟฟ้าตก หรือสูงกว่าปกติ และแอนตี้รีไซเคิล (Anti-recycle) ซึ่งเป็นอุปกรณ์หน่วงเวลา เพื่อป้องกันการปิด-เปิด เครื่องติดต่อกันในกรณีที่ไฟกระพริบ หรือไฟตก
  2. เปรียบเทียบการใช้ไฟของเครื่องปรับอากาศ COP : Coefficient of Performance (สมรรถนะของระบบ ทำความเย็น) ค่าตัวเลขยิ่งมากยิ่งดี EER : Energy Efficiency Ratio (อัตราส่วนประสิทธิภาพการใช้พลังงาน)ค่าตัวเลขยิ่งมากยิ่งดี
  3. ตรวจดูความแข็งแรงทั่วไปของเครื่อง ถ้าตัวถังเป็นเหล็กจะต้องหนา และไม่เป็นรอยขีดข่วนง่าย
  4. คอยล์และครีบอลูมิเนียมจะต้องใหม่ไม่มีฝุ่นจับ และครีบอลูมิเนียมควรถี่และตั้งตรง (ครีบไม่ล้ม)
  5. มอเตอร์แฟนคอยล์ยูนิต (ชุดที่อยู่ในห้อง) และคอนเดนซิ่งยูนิต (ชุดที่อยู่นอกห้อง) ต้องเป็นของใหม่ โดยสังเกตจากมอเตอร์ใหม่ต้องไม่มีฝุ่นเกาะขดลวดภายใน
  6. เลือกเครื่องปรับอากาศที่มีแผ่นแสดง (Name Plate) ที่มาของแหล่งผลิตและคุณสมบัติ ข้อมูลทางเทคนิค ที่จำเป็นของเครื่องนั้นๆ เช่น กำลังไฟฟ้า สมรรถนะการทำความเย็นอัตราส่วน ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน เป็นต้น
  7. ฉลากแสดงประสิทธิภาพพลังงานของเครื่องปรับอากาศ เบอร์ 5
ข้อแนะนำที่เป็นประโยชน์สำหรับท่านที่กำลังตัดสินใจ ซื้อเครื่องปรับอากาศ 
  1. ควรเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศจากผู้ผลิตและผู้จำหน่ายที่เชื่อถือได้ เพราะแอร์โนเนมส่วนใหญ่จะมีกำลังความเย็น ( BTU ) น้อยกว่าที่แสดงไว้บนฉลากหรือที่ภาษาช่างแอร์เรียกว่า ไม่เต็มบีทียู เครื่องปรับอากาศจากผู้ผลิตโนเนมส่วนใหญ่มีกำลังความเย็นเพียง 70 – 80 % ของที่โฆษณาไว้ นอกจากจะมีกำลังความเย็นไม่เต็มบีทียูแล้ว –แอร์โนเนมยังมีเสียงดังแล้วยังเสียเร็วด้วย
  2. ควรเลือกใช้เครื่องปรับอากาศที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 หรือเบอร์ 4 และได้มาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) เพราะได้รับการทดสอบความสามารถในการทำความเย็นแล้ว ซึ่งทำให้ท่านแน่ใจได้ว่าจะได้เครื่องปรับอากาศที่ประหยัดไฟฟ้าและมีประสิทธิภาพเต็มบีทียู นอกจากนี้ควรพิจารณาประกอบกับผู้ผลิตที่มีความน่าเชื่อถือด้วยเนื่องจากว่าอาจมีผู้ผลิตบางราย ปลอมฉลากเบอร์ 5 ด้วย
  3. เลือกใช้เครื่องปรับอากาศของผู้ผลิตที่และผู้แทนจำหน่าย มีบริการหลังการขายที่ดี ข้อนี้เป็นข้อที่มีความสำคัญมากเช่นกันผู้ให้บริการนั้นต้องมีความชำนาญ ได้มาตรฐานและเชื่อถือได้ เพราะนั่นหมายถึงผู้ที่จะดูแลเครื่องปรับอากาศของคุณ จะได้ไม่ต้องมาหงุดหงิดกับปัญหาจุกจิกกวนใจภายหลัง
ข้อพิจารณาในการใช้งาน เครื่องปรับอากาศ 
  1. ปรับตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสมต่อการใช้งาน ประมาณ 25 องศาเซลเซียส
  2. ปิดเครื่องปรับอากาศทุกครั้งเมื่อเลิกใช้ หรือไม่ใช้งานเกินกว่า 1 ชั่วโมง
  3. อย่านำสิ่งของไปวางกีดขวางทางลมเข้า/ออกของคอนเดนซิ่งยูนิต
  4. หลีกเลี่ยงการนำอุปกรณ์ที่มีความร้อน เช่น เตารีด เตาไฟฟ้า เข้ามาใช้ภายในห้องที่มีการปรับอากาศ
  5. ควรปิดประตู หน้าต่างให้สนิท ขณะใช้งานเครื่องปรับอากาศ
  6. ไม่ควรปลูกต้นไม้ หรือตากผ้าในห้องที่มีการปรับอากาศ
 
  Copyright (C) 2010 www.ion.co.th  All Rights Reserved.