จากร้านแห่งแรก สู่แฟรนไชส์ทั่วประเทศ
ศุภกิจ รุ่งโรจน์
คุณศุภกิจ รุ่งโรจน์ ใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ 10 ขวบ เขาจบการศึกษาจากสถาบันชั้นนำด้านอาหารมาโดยตรง จาก CIA ซึ่งเป็นสถาบันเดียวกับคุณหมึกแดงนั่นเอง เขากลับมาที่เมืองไทย เพื่อตามความฝันของตัวเอง
ชีวิตเหมือนกับพิมพ์เขียว แต่ละเดือนผมจะวางเป้าหมายในชีวิตของผมว่า จะทำอะไรบ้าง แล้วเดินไปตามทางที่ขีดไว้ ตัวผมเองก่อนมาทำร้านอาหาร ผมเคยทำอาหารในโรงแรมและร้านอาหารมาหลายแห่ง แห่งละหนึ่งปีบ้าง ปีครึ่งบ้าง เป็นการเพิ่มประสบประการณ์ได้เห็นอะไรใหม่ๆจากเจ้านาย ผมจะเลือกสมัครงานร้านอาหาร 5 ดาวก่อนในปีแรก เพราะผมจะรู้ถึงการทำร้านอาหารแบบที่สมบูรณ์ที่สุด และแห่งที่สองผมจะทำงานร้านที่ระดับรองลงมาเรื่อย การได้ทำงานในร้านอาหารมาทุกระดับ ทำให้ผมได้เห็นในส่วนที่ดี และไม่ดี ที่เอามาปรับใช้กับธุรกิจของผมได้
จากร้านเล็กๆ เป็นร้านสาขากว่า 47 แห่ง
บริษัท พิซซ่าทูเดย์ จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2543 โดยคุณศุภกิจ รุ่งโรจน์ นำธุรกิจขายพิซซ่ารูปแบบที่เป็น Kiosk แยกตัวออกจากแบรนด์เดิมที่คุณศุภกิจก่อตั้งขึ้นคือแบรนด์อัลเฟรโด เนื่องจากอัลเฟรโดเปลี่ยนไปมุ่งเจาะตลาดพิซซ่าแช่แข็งแทน จำนวนสาขาที่แยกตัวออกจากอัลเฟรโดมาตั้งชื่อใหม่เป็นพิซซ่าทูเดย์มีจำนวน 15 สาขา และได้ขยายสาขาเพิ่มเรื่อยมากับห้าง Discount Store ตามอัตราการเปิดของห้าง จนปัจจุบันมีสาขาทั้งสิ้น 47 สาขาสินค้าของร้านพิซซ่าทูเดย์ จะมีทั้งพิซซ่า ทวิสเตอร์ แซนวิช ขนมปังกระเทียม ไอศครีม สลัด รวมทั้งรายการสินค้าอื่นๆที่จะเพิ่มเติมแแล้วแต่ความเหมาะสม
นอกจากกิจการร้านพิซซ่าแล้ว คุณศุจกิจ ยังมีธุรกิจอื่นอีก คือ ชูการ์บัน จำหน่ายอาหารทานเล่นยอดนิยมที่สามารถทานได้ทั้งวัน (Snacks) เช่น เครป ข้าวโพดคลุกเนย ขนมปังปิ้ง นมร้อน และที่ถือเป็นสูตรพิเศษเฉพาะของชูการ์บันคือ มัฟฟินเนื้อนุ่มหอมมันซึ่งมีให้เลือกหลายไส้
ส่วนเบเกอรี่ทูเดย์ จำหน่ายผลิตภัณฑ์เบเกอรี่จำพวกขนมปังไส้ต่างๆ เค้ก คุกกี้ และจุดเด่นของร้านคือการสาธิตการผลิตขนมปังซอฟท์โรล ซึ่งมีให้ลูกค้าเลือกหลายรสชาติ
5 ขั้นในการเติบโต
จากวันแรกที่เริ่มต้นธุรกิจจนประสบความสำเร็จมาถึงวันนี้ ศุภกิจให้ข้อคิดว่า ในช่วงเริ่มต้นเรื่องเงินทุนเป็นเรื่องใหญ่ที่ผมต้องบริหารให้ดีที่สุด ถ้าวันนั้นเงินติดขัดธุรกิจก็ไปต่อไม่ได้
ถามว่าการตลาดสำคัญไหม เริ่มต้นแรกๆการตลาดยังไม่สำคัญเท่าไหร่ แค่อาหารดี บริการดี การบอกปากต่อปากช่วยให้ธุรกิจของเราไปได้ดีกว่าการทำตลาดเสียอีก ช่วงเริ่มต้นความรู้ทางธุรกิจจึงมีความสำคัญมาก ขั้นที่ 2 ต้องเริ่มทำการตลาดสินค้าจึงจะขายได้ทำให้คนรู้จัก ช่วงนี้การเงินจึงมีความสำคัญตกลงไป มาถึงขั้นที่ 3 การตลาดยิ่งเข้ามามีบทบาทสำคัญ คือการทำให้สินค้าเป็นที่แพร่หลายในหมู่ผู้บริโภค ขั้นที่ 4 เป็นช่วงที่เรียกว่า การทำการตลาดอย่างสมบูรณ์ หมายความว่าช่วงนี้เราสามารถโอนถ่ายการผลิตให้กับโรงงาน หน้าที่อย่างเดียวของคุณขณะนี้คือลุยตลาด เพราะแบรนด์ของคุณเริ่มเป็นที่รู้จักแล้ว ใครจะเป็นผู้ผลิตสินค้าเหล่านี้ก็ได้ ขอเพียงยังมีคุณภาพเหมือนเดิมเท่านั้น และขั้นที่ 5 จะเป็นขั้นตอนที่หวนกลับไปจุดเดิม หมายความว่าเวลานี้คุณต้องเริ่มธุรกิจใหม่ สร้างสินค้าใหม่ขึ้นเพื่อรองรับการเปลี่ยนของตลาด
จับช่องว่างของตลาด
ทุกวันนี้ ใครเห็นหน้าผมก็จะคิดถึงพิซซ่าทันที เพราะผมอยู่ในธุรกิจนี้มานาน คำถามสุดฮิตที่คนชอบถามก็คือ แล้วจะไปสู้กับยักษ์ใหญ่ได้หรือ และไม่ว่าจะถามกี่ครั้งคำตอบของผมก็เหมือนเดิม ช่องวางของธุรกิจพิซซ่าที่ผมพบก็คือ เวลาจะทานพิซซ่าต้องไปที่ร้าน หรือสั่งมาทานที่บ้าน คุณต้องจ่ายเงินเท่าไหร่ในการทานแต่ละครั้ง ผมเปิดร้านพิซซ่าแบบบูทขนาดเล็กในห้างไม่มีที่นั่ง มีแต่ซื้อกับไปทานที่บ้าน แต่ที่แตกต่างจากที่อื่นก็คือ ขายเป็นชิ้น ใน 1 ถาดแบ่งออกเป็น 8 ชิ้น เพียงชิ้นเดียวคุณก็ซื้อกับบ้านได้ พอกับความต้องการ
ผมเชื่อว่าผมเป็นส่วนเติมเต็ม ช่องว่างในตลาดพิซซ่า เป็นทางเลือกของคนที่อยากทานพิซซ่า แต่ไม่ต้องการทานมากแบบอาหารหนัก เป็นทางเลือกให้คนที่ยังไม่มีประสบการณ์ลองทานดู ผมสังเกตว่ายอดขายสาขาที่อยู่ในต่างจังหวัดสูงว่าในกรุงเทพฯ
ตอนเริ่มทำธุรกิจใหม่ๆ ผมใช้วิธีขยายแป้งพิซซ่าในอากาศ มาเป็นตัวดึงดูดลูกค้า เป็นการสาธิตวิธีผลิตสินค้าให้ชมกัน สามารถดึงดูดความสนใจลูกค้าได้มากทีเดียว
การเติบโตสู่ร้านสาขา
การเปลี่ยนแปลงรูปแบบจากแผงลอยมาเป็นคีออสที่ทันสมัยก็เริ่มจากการที่ห้างให้การยอมรับและเชื่อถือในรูปแบบการขายของเรา ตอนนั้นมี Discount store ยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งกำลังบุกขยายสาขาในเมืองไทย มาเห็นรูปแบบร้านก็ชอบ จึงติดต่อให้ไปลงในห้างของทั้งที่เปิดแล้วและที่กำลังจะเปิดต่อไปทั้งหมด นั่นเป็นที่มาของการขยายสาขา
ก่อนที่ผมจะขยายร้านอาหาร ผมรู้ดีว่าต้องมีอุปสรรคหลายอย่าง ต้องมีการเจรจาต่อรองเรื่องพื้นที่กับห้างสรรพสินค้า ต้องมีเงินจำนวนมากไว้ใช้หมุนเวียน ต้องสร้างทีมงานขึ้นมาใหม่ ต้องสร้างผู้จัดการใหม่ๆ เพื่อนำนโยบายไปถ่ายทอดให้กับพนักงานต่อไป
จริงอยู่การทำธุรกิจมี 2 ด้าน ประสบความสำเร็จ และไม่ประสบความสำเร็จ แต่การทำธุรกิจของผม ผมเตรียมแผนรองรับความล้มเหลวไว้ล่วงหน้าเสมอ หากเปิดให้บริการไประยะหนึ่งแล้วล้มเหลว ผมมีแผนสอง แผนสามรองรับอยู่ เพราะผมรู้ดีว่าคนประสบความล้มเหลวจากการทำธุรกิจ ส่วนหนึ่งมาจากความคิดที่ว่า ทำธุรกิจแล้วต้องประสบความสำเร็จ แต่ในความเป็นจริงจะมีสักกี่คน ในจำนวน 100 จะมีคนสอบผ่านไม่เกิน 20 คนแน่
ผมทำธุรกิจมานาน ตั้งเป้าหมายในใจแล้วว่า ผมทำธุรกิจเพื่อประสบความสำเร็จ ไมใช่ความล้มเหลว แต่ผมต้องวางแผนการล้มเหลวไว้ตั้งแต่แรก และรู้ว่าจะแก้เกมส์อย่างไร ทุกวันนี้ผมทำตาแผนที่ผมวางไว้ ผมพยายามที่จะพัฒนาร้านอาหารของผมให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และขยายสาขาออกไป
ปรับเปลี่ยนโครงสร้าง
การทำอะไรใหม่ๆ ต้องเริ่มจากการมีแนวคิดก่อนว่าจะทำอะไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องรู้จริงเข้าใจจริง ถ้าเรามีความรู้ มีทักษะ แต่ไม่มีเงินทุน ก็ต้องรู้จักหาผู้ร่วมลงทุน และหลังจากที่ทำธุรกิจไประยะหนึ่งแล้ว เราก็ต้องหามืออาชีพเข้ามาเสริมทีม ต้องมีการวางแผนการจัดการที่ดี วางคนให้เหมาะสมกับงาน ดึงความสามารถของเขาออกมาใช้
การปรับเปลี่ยนโครงสร้างจากร้าน 1 แห่ง กลายเป็นร้านสาขาจำนวนมากนั้นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปก็คือ
-โครงสร้างขององค์กรเป็น 3 ฝ่ายหลักๆ คือ
1.ฝ่ายการตลาดซึ่งดูแลการขายสินค้าภายใต้แบรนด์ของเราซึ่งมี 3 แบรนด์ ผ่านช่องทางการขายในห้าง รวมถึงการดูแลและการขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ และวางแผนงานด้านการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง
2.ฝ่ายการเงิน ดูแลในเรื่องของงบประมาณด้านต่างๆของบริษัท วิเคราะห์และประเมินผลการดำเนินงาน รวมถึงคอยพิจารณาและทบทวนแผนการขยายและการลงทุนในอนาคต
3.ฝ่ายปฏิบัติการ จะควบคุมดูแลในด้านการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพมาตรฐาน รวมไปถึงการพัฒนาบุคลากรในองค์กรให้มีความรู้ควบคู่กับมีจิตสำนึกรับผิดชอบ
ระบบงานในร้าน
ส่วนระบบงานในร้าน คีออสก็จะแบ่งเป็น 3 ระดับคือ
1. คือผู้จัดการเขต หัวหน้าสาขา และพนักงาน โดยผู้จัดการเขตจะดูแลตั้งแต่ 5-10 สาขา ในทุกเรื่อง ตั้งแต่การสรรหาพนักงานเบื้องต้น (โดยปกติจะติดประกาศรับสมัครที่หน้าร้านเพื่อหาคนในพื้นที่ใกล้เคียง) ให้ความรู้และฝึกอบรมและคอยติดตามผลงานของร้าน และจะต้องเข้าประชุมเพื่อรายงานผลและรับนโยบายของบริษัทไปปฏิบัติต่อไป
2.หัวหน้าสาขาจะดูแลในเรื่องการผลิตสินค้า การขาย การประมาณการสั่งของ การจัดเก็บวัตถุดิบ สต็อคสินค้าในร้าน และความสะอาดเรียบร้อยภายในร้าน
3.พนักงานขาย จะทำหน้าที่ผลิตและขายสินค้า และเรียนรู้งานตามที่หัวหน้าสอน
นอกจากนี้มี่ส่วนการที่เปลี่ยนแปลงด้านอื่นๆอีก ที่สำคัญ ก็คือ
-ส่วนงานด้านเอกสารสำคัญที่ร้านควรมีคือ ทุกสาขาจะรับเอกสารเป็นเล่มจากทางบริษัททุกเดือน เรียกว่าสมุดประจำร้าน ประกอบไปด้วยรายงานสต็อคสินค้า รายงานขาย รายการประมาณการสั่งของ รายงานการทำงาน รายงานการตรวจเยี่ยม รายงานการนำส่งค่าเช่า รายการค่าใช้จ่ายต่างๆ และรายงานการโอนเงินเข้าธนาคาร
-ระบบเทคโนโลยีที่จำเป็นในร้าน ปัจจุบันบริษัทใช้เครื่องคิดเงินในการบันทึกรายการขาย เพื่อนำมาตรวจสอบยอดเงินและสต็อคสินค้าคงเหลือ แต่มีข้อจำกัดคือการนำส่งข้อมูลกลับบริษัทมีความล่าช้า ทำให้อาจจะติดตามพฤติกรรมไม่พึงประสงค์บางประการได้ไม่ทันท่วงที
บริษัทมีแผนที่จะลงทุนระบบ on line จากสาขาเข้าสู่ส่วนกลาง เพื่อการตรวจสอบควบคุมได้รวดเร็วและแม่นยำ
-การปรับปรุงการขนส่งรองรับร้านที่ขยายสาขานั้น บริษัทมีรถขนส่งของตัวเองที่บริการส่งสินค้าให้กับสาขาในกรุงเทพและปริมณฑล โดยของสดจะส่งกับรถตู้เย็นเพื่อรักษาคุณภาพสินค้า ส่วนของแห้งจะไปกับรถธรรมดา ส่วนสาขาต่างจังหวัดจะส่งทางเครื่องบินเป็นส่วนใหญ่
การอบรม หัวใจบริหาร
นอกจากความเข้าใจลูกค้าภายนอกแล้ว คุณศุภกิจเน้นเรื่องการอบรมเป็นอย่างมาก ลูกค้าภายในก็ไม่ควรทิ้ง คือพนักงานของเรานั่นเอง ที่ต้องมีการอบรมอย่างต่อเนื่อง ส่วนมากหลายที่อาจจะมีการอบรม 1-2 ครั้งต่อปีเท่านั้น ผมมีการอบรมพนักงานของผมประจำทุกสัปดาห์ การอบรมพนักงานไม่ใช่แค่ให้พนักงานรู้หน้าที่ของตัวเอง แต่เราควรถ่ายทอดความคิดของเจ้าของธุรกิจให้พนักงานได้รับรู้และเข้าใจตรงกันด้วย ให้พนักงานรู้ว่าเจ้าของธุรกิจมีวัฒนธรรมในการทำธุรกิจอย่างไร เข้าใจทิศทางและความคิดของเจ้าของธุรกิจ ถ่ายทอดให้พนักงานรู้สึกเป็นเจ้าของธุรกิจนั้นด้วย การอบรมจะเป็นประตูการสื่อสารระหว่างผู้บริการกับพนักงานที่ดีที่สุด
การรักษาคุณภาพของสินค้า
เมื่อมีสาขามากขึ้น ทำอย่างไรจะผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและมีมาตรฐานอันเดียวกัน เราจึงมาคิดค้นการผลิตพิซซ่ากึ่งสำเร็จรูปหรือ Pre-baked pizza จากโรงงาน เพื่อคงคุณภาพของสินค้าทุกร้าน การผลิตสินค้าจากโรงงานได้ผลเป็นที่น่าพอใจ สินค้ามีมาตรฐาน มีความสม่ำเสมอทุกชิ้นทุกอัน ทำให้ลดการพึ่งพาความสามารถและทักษะของพนักงานขายลงมาก
แผนการบุกขยายสาขาแฟรนไชส์
พิซซ่าทูเดย์ ธุรกิจนี้เป็นตัวผมเองร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมมีความตั้งใจที่จะให้ธุรกิจนี้กระจายไปทั่วประเทศเร็วขึ้น ปัจจุบัน พิซซ่าทูเดย์ ได้มีการขายแฟรนไชส์ไปแล้วเป็นจำนวน 10 ราย
แผนงานใน 5 ปี ต่อไปของพิซซ่า ทูเดย์ มีแผนที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้นการขยายธุรกิจจะมีการขยายไปในทุกๆจังหวัด และจะมีการขาย master franchise ให้กับบุคคลที่มีความเหมาะสม และทางบริษัทมีนโยบายในการขยายสาขาให้ทั่วประเทศ
โดยเป้าหมายในการขยายสาขาในปี 2008 จะครบ 200 สาขา และโตต่อเนื่องอย่างน้อยปีละ 15%
ในรูปแบบการลงทุนได้เป็น 2 รูปแบบคือ
1. รูปแบบ kiosk งบประมาณการลงทุนอยู่ที่ประมาณ 1,500,000 บาท (ทำเลในโมเดิร์นเทรด เช่น โลตัส คาร์ฟู บิ๊กซี โดยพื้นที่ คีออส ประมาณ 15 ตารางเมตร)
2. รูปแบบ Stand alone ตามสถานที่อื่นๆ เช่น ปั๊มน้ำมัน โรงเรียน มหาวิทยาลัย ย่านชุมชน รถไฟฟ้า อาคารสำนักงาน งบออกแบบและตกแต่งจะอยู่ที่ประมาณ 1,300,000
รูปแบบ เป็นการลงทุนนี้ ผู้ลงทุนจะสามารถประกอบธุรกิจได้อย่างทันที รวมทั้งให้การช่วยเหลือหาทำเลให้กับแฟรนไชส์ ในร้านค้าซูเปอร์สโตร์ต่างๆ และ ทางทีมงานบริษัท พิซซ่าทูเดย์ จะมีพนักงานอย่างน้อย 1 คนอยู่บริการในร้านของแฟรนไชส์ ตั้งแต่ร้านเปิดดำเนินการเป็นระยะเวลา 1 เดือน
ซึ่งหากท่านใดสนใจ สามารถ ติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข 02-978-8445 ต่อ 195
หรือ 081-350-6201 นอกเวลางาน และ เสาร์ อาทิตย์ |