คาร์แลค 68 ปั้นแบรนด์ใหม่ “โมลี แคร์”
จับคอนเซ็ปท์คาร์แคร์แนวใหม่ เจาะใจคนรักรถ
     บริษัท คาร์แลค (ไทย-เยอรมัน) จำกัด เจ้าของแบรนด์ “คาร์แลค 68 ธุรกิจคาร์แคร์ครบวงจรชื่อดัง ปีนี้สบช่องในธุรกิจคนรักรถ เปิดแบรนด์ใหม่ เป็น “โมลี แคร์ บาย คาร์แลค68 ชูคอนเซ็ปท์ “More than  car care” ตั้งเป้าปีนี้เปิดแฟรนไชส์เพิ่ม 70 สาขา พร้อมเตรียมโกอินเตอร์รุกตลาดต่างประเทศ อาทิ ดูไบ มาเลเซีย เวียดนาม หวังโกยรายได้เข้าประเทศ
                                      นายกฤษฎ์ กาญจนบัตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาร์แลค(ไทย-เยอรมัน) จำกัด เผยว่าจากที่บริษัททำธุรกิจแฟรนไชส์ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจรในชื่อ “คาร์แลค68”มากว่า 3 ปี มีสาขาแล้ว 40 แห่งทั่วประเทศ  และเนื่องจากทางบริษัทฯ ต้องการรุกขยายฐานเข้าสู่ตลาดต่างประเทศและขยายกลุ่มลูกค้าให้กว้างมากยิ่งขึ้น จึงได้มีการพัฒนาแบรนด์ฯ ในครั้งนี้ โดยสร้างแบรนด์ใหม่ชื่อ “โมลี แคร์ บาย คาร์แลค68” ดังนั้นการพัฒนาแบรนด์ของแฟรนไชส์สาขาใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต่อไปจะเปิดภายใต้ชื่อ โมลีแคร์  ส่วนแฟรนไชส์สาขาอื่นๆ ที่ได้เปิดดำเนินกิจการภายใต้ชื่อ คาร์แลค68 นั้น ก็จะค่อยๆปรับเปลี่ยนแบรนด์ใหม่ เหมือนกันทั้งหมด”
สู่มาตรฐานกับ โมลี แคร์
 สำหรับเรื่องมาตรฐานการให้บริการทางด้านแฟรนไชส์คาร์แคร์นั้น คุณกฤษฎ์ บอกว่า การที่จะยกมาตรฐานขึ้นสู่ในระดับสากลนั้นจะต้องมีความแข็งแกร่งในเรื่องระบบการดำเนินงานและคุณภาพการบริการของแฟรนไชส์ในประเทศก่อน ซึ่งขณะนี้ ทางบริษัท คาร์แลคฯ ได้มีการทำสัญญาจ้างที่ปรึกษาด้านการวางระบบแฟรนไชส์จากประเทศอเมริกา มาช่วยในด้านการวางระบบแฟรนไชส์ให้เป็นมาตรฐานระดับนานาชาติ ก่อนที่แบรนด์ “โมลี แคร์ บาย คาร์แลค68” จะก้าวสู่เวทีตลาดโลกอย่างเต็มตัว  “ผมต้องการให้แฟรนไชส์ผมมีมาตรฐาน ลูกค้ามาสาขาไหน มีบริการเหมือนกันหมด ผมจึงมาตั้งแนวคิดว่า ถ้าเราจะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ และขยายแฟรนไชส์ของคนไทยไปสู่ต่างประเทศ การสร้างแบรนด์อย่างเดียวไม่พอ ต้องสร้างระบบที่ดีควบคู่ไปด้วย จึงใช้งบกว่า 5 ล้านบาทในการสร้างบริษัทที่ปรึกษาวางระบบแฟรนไชส์และพัฒนาระบบซอพท์แวร์   และการบริหารของร้านเราควบคุมด้วยระบบออนไลน์ ที่เจ้าของสามารถดูข้อมูลทั้งหมดภายในร้านผ่านจอคอมพิวเตอร์ ดูรายรับ รายจ่าย ต้นทุนฯลฯ  ส่วนด้านการบริการลูกค้า ก็จะบันทึกข้อมูลลูกค้าแต่ละรายว่า มีความต้องการใช้บริการแบบใด หรือมีคำสั่งพิเศษอย่างไรบ้าง เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้ารายเดิมและรายใหม่ๆ”
 
3 รูปแบบให้เลือกลงทุน
 อีกด้านหนึ่งที่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของศูนย์บริการคาร์แคร์ ที่ไม่ใช่แต่จะเปลี่ยนชื่อ เป็น โมลีแคร์ บาย คาร์แลค68 เท่านั้น ในส่วนรูปแบบศูนย์ก็มีการปรับโฉมใหม่เช่นกัน เริ่มจากรูปแบบภายนอก มีการปรับหน้าร้านให้ดูทันสมัยขึ้น เน้นใช้สีฟ้า และเหลือง จัดสรรพื้นที่บริการอื่นๆเสริม เช่น ร้านกาแฟ ร้านไอศครีม ห้องนั่งพัก เพื่อให้ลูกค้านั่งพักระหว่างรอล้างรถ ส่วนรูปแบบระบบการขายแฟรนไชส์ในประเทศนั้น ทางบริษัทฯ จัดแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 
    1. โมลีแคร์ บาย คาร์แลค68 แฟรนไชส์    จะเป็นการให้บริการคาร์แคร์ และจัดโปรโมชั่นตามนโยบายของบริษัทฯ ทั้งหมด
    2. โมลี แคร์ บาย คาร์แลค68 ดีลเลอร์  จะเป็นกลุ่มที่มีการตกแต่งร้านและโปรโมชั่นขึ้นอยู่กับร้านแต่ละร้านจะมีการสั่งออร์เดอร์สินค้าเพื่อเข้าไปวางขายในร้านปริมาณที่บริษัทฯ กำหนด  และ
    3. โมลี แคร์ บาย คาร์แลค68 ซัปพอร์ทเตอร์    เป็นกลุ่มที่ร้านจะซื้อผลิตภัณฑ์บางตัวไปวางขายในร้าน ทางบริษัทฯ ก็จะมีป้ายแบนเนอร์ เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าภายในร้านให้
ซึ่งการวางกลุ่มแฟรนไชส์ในประเทศนั้น ทางบริษัทฯ ได้มีการกำหนดโซนนิ่งในการเปิดสาขาด้วย เช่น ในแต่ละจังหวัดจะมีศูนย์บริการได้ หนึ่งศูนย์เท่านั้น เว้นแต่จังหวัดนั้นจะต้องมีพื้นที่ใหญ่มากๆ หรือในรูปแบบของดีลเลอร์ ก็จะมีการกำหนดระยะห่างของร้านว่า จะต้องห่างกันรัศมีกี่กิโลเมตร สาเหตุที่ต้องกำหนดโซนนิ่งเป็นเพราะ ทางบริษัทฯ ไม่ต้องการเปิดสาขาได้มากๆ ได้เงินจากการเปิดแฟรนไชส์เยอะๆ สุดท้ายแต่ละแฟรนไชส์ก็แย่งลูกค้ากันเอง ซึ่งจุดนี้เป็นการสร้างความมั่นใจให้ผู้ลงทุนได้ว่า เปิดแฟรนไชส์ไปแล้วจะไม่มีศูนย์บริการอื่นมาเปิดแข่งอีกแน่นอน
 ปัจจุบันบริษัท คาร์แลคฯ มีสาขาทั้งหมด 50 สาขาทั่วประเทศ และในปี 50 นี้ จะเพิ่มอีก /20 สาขา เป็น 70 สาขาด้วยเงินลงทุนประมาณ 1.8-2 ล้านบาท โดยใช้พื้นที่ดำเนินการประมาณ 100-150 ตรม. ไม่รวมลานจอดรถ คาดการณ์คืนทุนประมาณ 2 ปี ระยะเวลาสัญญา 5 ปีต่ออีก 2 วาระรวมระยะเวลา 15 ปี  โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทฯมีผลประกอบการอยู่ที่ 60 ล้านบาทแบ่งเป็นรายได้จากระบบแฟรนไชส์ 60%  ระบบดีลเลอร์ 25%  และระบบศูนย์บริการ 15 %  สำหรับเป้าหมายยอดขายปีนี้ตั้งไว้ที่เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 20%
 สำหรับการขายแฟรนไชส์ในตลาดต่างประเทศนั้น บริษัทฯ จะขายเป็นมาสเตอร์แฟรนไชส์ โดยเปิดเป็นตัวแทนแห่งเดียวในประเทศ และมีสิทธิการดำเนินงานเองด้วย ซึ่งการขยายตลาดไปสู่ระดับสากลนั้น ทางบริษัทฯ มองว่าจะเป็นการดีในการส่งเสริมการกระจายธุรกิจไทยออกไปภายนอกเพื่อดึงเงินตราเข้าสู่ประเทศได้มากขึ้น
 
ใครบ้าง...เหมาะทำธุรกิจ “โมลี แคร์”
 สำหรับผู้ที่สนใจร่วมทำธุรกิจกับ โมลีแคร์  ที่ปัจจุบันได้กำหนดไว้ 3 ทางเลือกนั้น ซึ่งในที่นี้ คุณกฤษฎ์ ได้อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ที่เหมาะสมจะเปิดในแต่ละรูปแบบว่า “สำหรับรูปแบบแรกที่เราเรียกว่า แบบแฟรนไชส์ นั้นจะเหมาะกับผู้ลงทุนที่ลงทุนใหม่กับเราทั้งหมด ตรงนี้ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์มาก่อนก็ได้ เพราะเรามีโปรแกรมอบรมผู้บริหาร ,พนักงาน รวมถึงการอบรมในหลักสูตรซอพท์แวร์ และจะมีการให้คำปรึกษาประสานงานดำเนินการจนถึงระยะเปิดศูนย์บริการ 
 ส่วนรูปแบบที่สอง คือแบบดีลเลอร์ ตรงนี้จะเหมาะกับผู้ลงทุนที่มีประสบการณ์ หรือมีศูนย์บริการเดิมอยู่แล้ว แต่ต้องการมาเข้าระบบกับโมลีแคร์  ใช้เงินลงทุนประมาณ 1 แสน-5 แสน บาท จ่ายเป็นค่า สั่งซื้อผลิตภัณฑ์ครั้งแรก 80000 บาท ค่าก่อสร้าง และตกแต่งตามจริง ค่าอุปกรณ์เครื่องมือสั่งซื้อจากบริษัทแม่ตามจริง
 และรูปแบบสุดท้าย คือแบบซัพพอร์ทเตอร์ เหมาะสำหรับอู่สีรถ  ร้านคาร์แคร์ขนาดเล็ก และร้านประดับยนต์  สามารถใช้พื้นที่เดิมของผู้ลงทุนได้ทันที และเงินลงทุนที่จ่ายจะเป็นการจ่ายเพื่อสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ในครั้งแรก และครั้งต่อไปสามารถสั่งซื้อได้ไม่จำกัดจำนวนสั่งซื้อ  โดยบริษัทจะมีป้ายแบนเนอร์ไปติดตั้งให้”
   
  นายกฤษฎ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “หลายปีที่ผ่านมาธุรกิจภาคบริการของคนไทย มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และนับวันจะทวีความสำคัญในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทย ได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งในขณะนี้หน่วยงานภาครัฐต่างก็ให้การสนับสนุนธุรกิจบริการอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชน์ ได้เล็งเห็นและให้ความสำคัญต่อธุรกิจภาคบริการมากขึ้น ธุรกิจล้างรถหรือคาร์แคร์นั้นจัดได้ว่าเป็นธุรกิจบริการอีกแขนงหนึ่ง ที่นับวันจะมีบทบาทในการสร้างรายได้เข้าประเทศ โดยล่าสุด ธุรกิจล้างรถของคาร์แลค68 ได้รับการคัดสรรจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้เป็น หนึ่งในยี่สิบห้า ของธุรกิจแฟรนไชส์ที่ได้เข้าร่วมโรดโชว์ต่างประเทศ ซึ่งเป็นความภูมิใจให้แก่บริษัทฯ ที่ได้โอกาสเช่นนี้ แม้จะเปิดธุรกิจแฟรนไชส์มาได้เพียงสี่ปีเท่านั้น”
 ภาพโดย www.manager.co.th/SMEs/ ViewNews.aspx?NewsID=9500000038029 - 77k -
รับสมัครงานด่วนหลายตำแหน่ง more...
 
26 ก.พ.-1 มี.ค. 52 พบกับงานซื้อ-ขายธุรกิจครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี 52 งานโอกาสธุรกิจ&แฟรนไชส์ ครั้งที่ 13....
 
แบบสอบถามแฟรนไชส์ซี่ (รับสิทธิ์สมัครสมาชิกนิตยสารฯ ฟรี!! 1 ปี)
ถ้าไม่สามารถอ่านเอกสารได้
ดาวน์โหลดโปรแกรมที่นี่....
            
 
 
 

บริการงานเว็บไซค์

 

 
 
- ditto world
- music palace
- pompadour
- blink
- สังขยา กาแฟ
- big move
- โจเอลลี่ โมอีส
- จันทร์สว่าง