BOY T-SHIRT SHOP
เรื่องโดย: ปิญนุช สิทธิศักดิ์
ช่วงนี้ท่านผู้อ่านรู้สึกหรือไม่ ว่าบ้านเมืองของเรามีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย ทั้งปัญหาการเมืองที่ยังวุ่นวายไม่จบสิ้น ปัญหาธรรมชาติที่เราทุกคนต้องช่วยกันใส่ใจในภาวะโลกร้อนและภัยธรรมชาติ ต่างๆ ปัญหาเศรษฐกิจที่เราต้องพากันรัดเข็มขัดให้แน่น และปัญหาอื่นๆ อีกมายมายไม่จบสิ้น โอ้ว ! อะไรจะเยอะแยะขนาดนี้ เฮ่อ เพียงแค่นึกถึงผู้เขียนเองก็เริ่มรู้สึกขนลุกและปวดหัวแล้ว จากที่ได้เกริ่นมาข้างต้น ผู้เขียนมิได้มีเจตนาให้ทุกท่านเครียดตามแต่อย่างใด เพียงแต่อยากให้เราชาวไทยหันมาช่วยสร้างกำลังใจซึ่งกันและกัน สำหรับผู้ที่มีปัญหาอยู่ก็ขอให้ฝ่าฟันไปให้ได้ สำหรับผู้ที่กำลังเดินตามฝัน ก็ขอให้ไปถึงฝั่งฝัน ดังนั้นฉบับนี้ ผู้เขียนจึงมีธุรกิจ ธุรกิจหนึ่ง ที่น่าจะจุดประกายความคิดของท่านที่กำลังเดินตามฝันได้บ้างไม่มากก็น้อย ธุรกิจที่ว่านี้เป็นธุรกิจร้านขายเสื้อยืดสีขาวธรรมดา แต่แฝงความไม่ธรรมดาอยู่ ร้านนี้มีชื่อว่า ร้าน BOY T-SHIRT ซึ่งมีที่ตั้งร้านอยู่ที่ สยามสแคว บริเวณใต้โรงภาพยนตร์สยาม หากใครเคยผ่านไปก็คงจะสะดุดตากับร้านนี้มิใช่น้อย เรามาทำความรู้จักกับร้าน BOY T-SHIRT กันตั้งแต่เริ่มแรกเลยดีกว่า
ก่อนจะเป็น BOY T-SHIRT
คุณหทัยทิพย์ พลายบัว เจ้าของร้าน BOY T-SHIRT เล่าให้นิตยสารโอกาสธุรกิจ&แฟรนไชส์ ฟังว่า
เมื่อประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว เราได้ทำธุรกิจมาหลายอย่างในสยามสแคว เปลี่ยนและหาสินค้าจากที่ต่างๆ มาขาย จนวันหนึ่งเกิดความรู้สึกว่าเราควรจะทำสินค้าเป็นของตัวเองได้แล้ว ก็เลยมาคิดว่าในความสามารถของเรามีอะไรบ้างที่พอจะทำได้ เราเลยมานั่งคุยกันว่าเมื่อในอดีตเราเคยทำเสื้อกันมาก่อน พอที่จะรู้จักกับโรงงานตัดเย็บ พอรู้จักกับโรงงานสกรีน และเราพอที่จะมีฝีมือในการออกแบบได้ เราจึงนำหลายๆ อย่าง ดังกล่าวมารวมกัน แล้วมาหาคอนเซปท์ โดยมองสิ่งที่เกิดมาจากตัวของพวกเราเองนี่แหละ จากความชอบส่วนตัว สิ่งที่อยู่ใกล้ๆ ตัว มาจากชีวิตประจำวัน สิ่งที่เราคลุกคลี เรามีพื้นฐานจากอะไรมา นำทุกอย่างมารวมกันเป็นงานดีไซด์ในแบบฉบับของเรา จนกลายมาเป็นร้าน BOY T-SHIRT ที่มีสินค้าในร้านเป็นเสื้อทีเชิ้ต คอกลมสีขาว ดีไซด์เอกลักษณ์เฉพาะตัว ลักษณะเสื้อไม่เข้ารูป มีไซด์เพียง 3 ไซด์ คือไซด์ M L XL
โดดเด่นด้วยดีไซด์เฉพาะตัว
หากพูดถึงจุดเด่นของร้าน BOY T-SHIRT ก็คงต้องนึกถึง เสื้อสีขาวใส่ดีไซด์ที่มีการออกแบบลวดลายที่ดูแล้วสะดุดตามาก ๆ หากใครเดินผ่านหน้าร้านแล้วไม่หันไปมอง หรือแวะดูเห็นทีคงจะไม่ได้ ซึ่งทางร้านเรียกรูปแบบการดีไซด์นี้ว่า กราฟิกแอนนิเมคิ้ว ซึ่งเป็นแบบน่ารักๆแนววัยรุ่นขิกขุก็ไม่ขิกขุ จะโหดก็ไม่โหด การออกแบบลวดลายของเรา จะออกมาแนวอินเตอร์หน่อย คือไม่ว่าต่างชาติมาระดับของงานจะออกมาเป็นกลาง
อย่างรูปหมี ถือว่าเป็นคอเล็กชั่นของช่วงๆ นี้ ซึ่งเราจะเปลี่ยนคาแล็กเตอร์ไปเรื่อยๆ ตามอารมณ์ ตามภาวะในแต่ละวันที่ได้ไปเจอมา ซึ่งเรานำมาออกแบบอธิบายลงในตัวเสื้อ คำพูดวันนี้มีอะไรที่เข้าแนวดูแล้วใช่เลยก็นำมาใส่ในเสื้อ จึงทำให้ลวดลายบนเสื้อของร้านเรามีความแปลกใหม่อยู่เสมอ บวกกับเสื้อของร้านเราทุกตัว จะผลิตมาจากผ้าที่เราสั่งจากโรงงานทอ เฉพาะจึงทำให้เสื้อไม่ยืด ไม่ย้วย
และจุดเด่นอีกอย่างของเรา คือเรื่องราคาขาย เพราะเราขายถูกมากเพียงตัวละ 190 บาท สำหรับ ไซด์ M L และตัวละ 220 บาทสำหรับไซด์ XL และมีโปรโมชั่นประจำของที่ร้านคือ ซื้อ 5 ฟรี 1 ซึ่งเสื้อทุกตัวที่ลูกค้าซื้อไปจะได้ทั้งเสื้อที่มีดีไซด์ทันสมัยและมีแพ็กเก็จที่สวยเก๋
สำหรับแพ็กเก็จของที่ร้าน ก็เกิดมาจากความคิดว่า เราต้องการที่จะทำแพ็กเกจให้ออกมาแตกต่างจากร้านทั่วไป จึงคิดทำออกมาในรูปแบบกล่องซึ่งแตกต่าง และใส่ลายของเสื้อลงในกล่องจนกลายเป็นเอกลักษณ์ของร้าน ที่ว่าซื้อเสื้อจากร้านบอย ไปแล้วจะต้องมีกล่อง และแพ็กเกจก็จะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ซึ่งตรงนี้จึงทำให้ลูกค้าประจำบางรายของร้านบอย เก็บสะสมแพ็กเกจ
และถ้าพูดถึงกลุ่มลูกค้าของร้าน BOY T-SHIRT จะมีทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งคนที่มาซื้อที่ร้านส่วนใหญ่จะถูกใจลวดลาย ลูกค้าของเรานอกจากในประเทศแล้ว ยังมีในต่างประเทศแทบเอเชียด้วย อาทิ ประเทศ สิงคโปร ไต้หวัน ฮ่องกง เป็นต้น คุณหทัยทิพย์ กล่าว
โอกาสทางธุรกิจกับ BOY T-SHIRT
จากที่ผู้เขียนได้กล่าวข้างต้นว่าปัจจุบันบ้านเมืองของเรามีปัญหามากมาย โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจซึ่งบางคนอาจจะขาดรายได้ ตกงาน รายรับไม่เพียงพอกับรายจ่าย ซึ่งทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่สนใจอยากจะหารายได้พิเศษ หรือนำไปประกอบอาชีพอย่างจริงจัง ทางร้าน BOY T-SHIRT ได้เปิดโอกาสโดยการขายส่งให้กับผู้ที่สนใจต้องการจะรับไปจำหน่าย
คุณหทัยทิพย์ อธิบายว่า สำหรับผู้ที่สนใจจะรับเสื้อของเราไปจำหน่าย สามารถเข้าไปดูแบบเสื้อได้ทางเว็ปไซด์ www.boytshirt.com หรือจะปริ๊นแบบเสื้อไปให้ลูกค้าดูก่อน แล้วสั่งออเดอร์กับเรา เราก็จะจัดส่งให้ หรือจะมาที่ร้าน ก็ได้เช่นกัน
ผู้ที่สนใจจะนำเสื้อไปจำหน่าย การสั่งสินค้าในครั้งแรกจะต้องสั่งขั้นต่ำ 3 โหล ซึ่งราคาส่งตัวละ 100 บาท พร้อมแพ็กเกจ ถ้าอยู่ต่างจังหวัดไม่สะดวกมาซื้อเองที่ร้านก็จะเสียค่าจัดส่ง 200 บาท ส่วนการนำไปจำหน่ายผู้ที่รับเสื้อจากเราไปขาย ไม่จำเป็นต้องตั้งราคาเท่ากับที่ร้าน ให้ตั้งราคาเองซึ่งอาจจะขายถูกกว่าหรือแพงกว่าก็ได้ เพราะตรงนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องทำเล ค่าเช่า และอื่นๆ
ปัจจุบัน กลุ่มคนที่มารับเสื้อของเราไปจำหน่ายมีตั้งแต่พนักงานบริษัทที่ต้องการหารายได้พิเศษ พ่อค้า แม่ค้าที่เปิดท้ายขายของ และคนที่เปิดร้านขายเฉพาะสินค้าของบอยอย่างเดียว เป็นต้น
บริเวณทีมีผู้ที่รับสินค้าบอยไปขายเด่นๆจะมี โบนันซ่า เดอะมอลล์งามวงศ์วาน บางใหญ่ เป็นต้น
ปัญหาการทำธุรกิจ
ปัญหาของร้านเราไม่ค่อยมีนะ หากพูดถึงเรื่องการลอกเลียนแบบก็ไม่ใช่ปัญหา ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันนั้นก็ไม่มีผลกระทบอะไรกับที่ร้าน เพราะเราจะมีการออกแบบ แบบใหม่ๆ มาเรื่อย ดังนั้นความใหม่ของสินค้าในร้านมีออกมาเรื่อยๆ ลูกค้าก็ซื้อเรื่อยๆ แต่ถ้าเราไม่พัฒนาตัวเราเองเราก็จะเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจ ดังนั้นเราจึงมีการพัฒนาใหม่เรื่องๆจะได้ไม่หยุดนิ่ง ลูกค้าที่มารับสินค้าไปขายเค้าก็จะได้ขายได้
หากพูดถึงเป้าหมายในอนาคตของร้าน BOY T-SHIRT แต่ก่อนเคยมองไว้เยอะมากเหมือนที่นักธุรกิจทั่วไปมอง ที่ภายใน 5 ปีจะต้องมีสาขา 20 , 30 สาขา ซึ่งความคิดของเราจริง ๆ แล้วสวนกระแสกับสิ่งที่ธรรมชาติเป็น เราไม่ใช่นักธุรกิจ แต่เราคิดเพียงว่าร้าน BOY T-SHIRT ในอนาคตจะมีร้านที่ใหญ่ขึ้น ในสถานที่ดีที่สุด ร้านสวยที่สุด ลูกค้าเยอะที่สุด แต่ก็ยังคงมีสาขาเดียว มีที่จอดรถทัวร์เพื่อรองรับลูกค้าที่มาจากต่างประเทศ
ค่อยๆทำทีละนิดๆ โดยนำทุกอย่างมาผสมผสานให้เป็นอย่างที่เราคิด ซึ่งคิดให้เป็นกลางแล้วให้ตัวเราเองเป็นผู้ตัดสิน มันก็จะสรุปออกมาเป็น ร้าน BOY T-SHIRT
เคล็ดลับความสำเร็จของ BOY T-SHIRT
เราเป็นคนสร้างงานศิลปะเราจะต้องเดินตามความคิด และแนวทางในหัวของเรา ซึ่งเราต้องเริ่มจากฝันให้เห็นภาพก่อน แล้วก็เดินเก็บฝันไปเรื่อยๆ ซึ่งความฝันของเราคือ ขอแค่เพียง ร้าน BOY T-SHIRT เป็นที่แค่ร้าน 1 ร้านในร้านเสื้อยืดซึ่งคนรู้จักและมาซื้อตลอด และเป็นร้านที่มีแนวรูปแบบของตัวเองและยังอยู่ตลอดไป ซึ่งที่เราขายได้อยู่ทุกวันนี้ และไอเดียเราไม่ตันเพราะว่าเราไม่ได้ไปลอดเลียนแบบใคร เราเป็นตัวของตัวเองสูงมาก เราจึงไม่มีคนอื่นมาแชร์ตลาดเรา เพราะคนที่จะแชร์เราได้จริงๆ จะต้องเป็นครอบครัวของเรา หรือเป็นตัวเรา เพราะสินค้าของเราเป็นสินค้าที่อยู่ระหว่างแฟชั่นกับตลาดล่าง ซึ่งสินค้าเราอยู่ตรงกลาง จึ่งอยู่มาได้จนทุกวันนี้ และถ้าต่างชาติคิดได้เราก็คิดได้
จากที่ผู้เขียนได้สัมภาษณ์เจ้าของร้าน BOY T-SHIRT สิ่งหนึ่งที่รู้สึกได้นั่นก็คือ การที่เราได้ทำงานที่เรารัก เราจะมีความสุขกับการทำงานนั้นๆ และมีพลังในการที่จะคิดค้นหรือพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ เจ้าของร้าน BOY T-SHIRT จึงฝากข้องคิดสำหรับผู้ที่มีความฝันจะเป็นเจ้าของธุรกิจไว้ว่า
สำหรับคนที่ต้องการจะทำธุรกิจอะไรสักอย่าง ทำอะไรก็ได้ที่คุณชอบและคุณเชื่อในสิ่งๆ นั้นคุณก็ทำได้หมด และคุณจะทำอะไรก็ได้ ทำให้ดีที่สุด
|