CLEANMATE
ชี้ธุรกิจแฟรนไชส์ซักรีด...ยังไปได้ไกล
เรื่องโดย: สุดารัตน์ รัตนสารี
ความเดิมก้าวแรก..กับการเริ่มต้นธุรกิจซักรีด
คุณวรนุช พงษ์พานิชย์ เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ซักรีด ภายใต้แบรนด์ CLEANMATE เริ่มจากปี 46 โดยทำงานเป็นแอร์โฮสเตสและเริ่มมองหาธุรกิจส่วนตัวเพื่อเป็นรายได้เสริมที่ทำนอกเหนือจากงานประจำก็เลยมองเห็นว่า
และมาลงตัวที่ธุรกิจซักอบรีดหรือซักแห้งเป็นธุรกิจที่มีความต้องการสูงและดูจากผลการวิจัยจากต่างประเทศความล้มเหลวต่ำและเป็นธุรกิจที่อยู่คู่กับคนไทยสมัยใหม่ คือ เทรนจะต้องดีขึ้นเพราะคนยังไม่ค่อยมีเวลาในการซักเสื้อผ้าเองและในเรื่องของเสื้อผ้าปัจจุบันนี้วิวัฒนาการพวกเส้นใยก็มีการพัฒนามากขึ้นเพราะฉะนั้นก็ต้องการมืออาชีพที่จะมาซักเสื้อผ้าโดยเริ่มทำในระบบแฟรนไชส์ในปลายปี 48 โดยมีสามีซึ่งเป็นวิศวกร ได้ลาออกจากงานประจำมาเพื่อลุยธุรกิจอย่างเต็มที่
วรนุช กล่าวว่า ทุนเริ่มต้นใช้ไปประมาณเกือบหนึ่งล้านบาท เพราะต้องซื้อเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้าด้วย โดยเป็นเครื่องมือสองที่คุณภาพดีแต่ราคาถูก เพราะซื้อต่อจากโรงงานที่พี่ชายทำงานอยู่ ซึ่งเป็นโรงงานที่รับซักผ้าของโรงแรม ส่วนพนักงานก็เริ่มต้นจาก 2 คน เตารีด 2 ตัว ทั้งนี้ อยู่ที่การบริหารจัดการด้วย ว่าจะเรียงลำดับการจัดการดูแลยังไงให้ทันเวลา
เดือนแรกๆ ก็มีลูกค้าประมาณ 50 คน ซึ่งก็เป็นคนในซอย ตอนนี้ก็มีลูกค้าประจำเป็นร้อยๆ เจ้า ส่วนมากลูกค้าก็จะเป็นวัยทำงาน ระดับกลางถึงสูง ซักแห้งก็จะมีพวกผ้าไหมเยอะ ช่วงปลายปีที่มีงานแต่งเยอะๆ งานก็จะเยอะไปด้วย
ยึดหลักการให้บริการด้วยคุณภาพ 3 C
CLEANMATE มีหลักในการบริการด้วย 3C คือ clean ความสะอาด Care คือการดูแลให้บริการลูกค้าด้วยความเอาใจใส่ และ Convenient Cleanmate มีคำตอบให้ท่านแล้ว เราสามารถซักแห้งเสื้อผ้าเหล่านั้น เราซักได้ รีดได้ ด้วยเครื่องมือที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะ เป็นร้านซักแห้งที่มุ่งเน้นด้านความสะอาด เราอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า แบบครบวงจร รวมถึง การซัก ผ้าม่าน พรม สปา พร้อมบริการรับส่ง และมีระบบการจัดการแบบเครือข่ายด้วยคอมพิวเตอร์ ซึ่งลูกค้าจะได้รับความสะดวกยิ่งขึ้น
และในแต่ละเดือน CLEANMATE มีการจัดโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้า อาทิ โปรโมชั่นต้อนรับลมหนาว, ร่วมฉลองวัน โดยลดราคาซักพิเศษ 15-20% โดยที่ผ่านมาลูกค้าก็เข้ามารับบริการเป็นจำนวนมาก การหาลูกค้าใหม่อยู่ตลอดเวลา และต้องรักษาลูกค้าเก่าไว้ให้ดีที่สุดถือว่า งานบริการลูกค้าคือหัวใจสำคัญ
การศึกษาระบบแฟรนไชส์
เรามีทั้งศึกษา วิจัย และก็หาข้อมูล ดูคู่แข่งซึ่งทั้งหมดเราศึกษามาเรียบร้อยแล้วว่าธุรกิจนี้ไปได้และเป็นธุรกิจที่มีคนมองข้ามเยอะ แต่เป็นธุรกิจที่จำเป็นสำหรับชีวิตประจำวัน ความสำเร็จของธุรกิจนี้เกิดจากความสำเร็จแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ปัจจัยภายนอกกับปัจจัยภายใน
* ปัจจัยภายในจะอยู่ที่ผู้ลงทุนเองในการที่เขาจะทุ่มเทให้กับมันเพื่อดูแลลูกค้า
* ปัจจัยภายนอก คือตัวธุรกิจที่เราทำเป็นธุรกิจที่มีความน่าสนใจและเป็นธุรกิจที่มีจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน
มองเห็นถึงการเติบโตของธุรกิจในอนาคตจากที่เราคำนวณดูแนวโน้ม จะมีการเติบโตในทุก ๆ ปี
เปิดรับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อใช้สิทธิแฟรนไชส์
Cleanmate มีนโยบายบริการรับส่งภายในพื้นที่ที่กำหนดโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย พร้อมช่วยเหลือแนะนำ Franchisee ในการหาทำเลที่เหมาะสม จัดรูปแบบและรูปลักษณ์การตกแต่งร้าน การวางระบบการ จัดการในรูปของภาพรวม ตั้งแต่ลูกค้านำผ้ามาที่หน้าร้าน ส่งต่อไปที่โรงงานซัก จนกลับมาถึงมือลูกค้า
เรามีการควบคุมมาตรฐานการให้บริการเป็นแบบสแตนดาร์ด มีขั้นตอน มีคู่มือ ในทิศทางเดียวกัน ลูกค้ามีความคาดหวังอะไรหลาย ๆ อย่างแต่ มาตรฐานในการจัดการจะช่วยให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจได้เป็นอย่างดี
คุณสมบัติของผู้รับสิทธิ์แฟรนไชส์
อันดับแรกต้องเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ หรือมีความชอบ เข้าใจในตัวของธุรกิจ มีแววความเป็นเจ้าของธุรกิจไม่ใช่ว่าซื้อแฟรนไชส์ไปแล้วหวังว่าจะทำกำไรขึ้นมาเอง คงเป็นไปไม่ได้ จะต้องลงแรง และอะไรอีกหลาย ๆ อย่างตรงนี้คิดว่าเป็นจุดสำคัญที่คนกำลังมองหาธุรกิจที่จะทำตรงนี้จะต้องมีวิสัยทัศน์ตรงนี้ด้วยมีเงินลงทุน มีทำเลที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า
เป้าหมายทำเลที่ตั้ง
สำหรับธุรกิจซักอบรีดสามารถอยู่ได้ในทุก ๆ แห่ง ไม่ว่าจะเป็นคอนโดระดับ 5 ดาว อพาร์ทเม้นท์ เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ หรือว่าหมู่บ้านใหญ่ ๆ คือ ธุรกิจนี้สามารถแทรกซึมกระจายอยู่ได้ในทุกที่ เราจึงมีระบบแฟรนไชส์ 2 แบบ
แบบที่ 1 คือเป็นเอเย่นต์หรือตัวแทนส่งมาให้เราซักรีดโดยตรง ก็เหมาะสำหรับคนที่มีงานประจำ แต่อยากมีรายได้เสริม
แบบที่ 2 คืออยากจะเอาคลีนเมทไปตั้งอยู่ในที่ ๆ ของเขาไม่ว่าจะเป็นที่ต่างจังหวัดหรือใต้คอนโด จะเข้าไปในลักษณะที่เป็นการดูแล ตั้งแต่การจัดหาทำเล ดูแลในเรื่องของการเข้าไปคุยการขอเช่าพื้นที่ เอารูปแบบไปนำเสนอ และก็ขั้นตอนต่อมาก็จัดหาอุปกรณ์ สารเคมี จัดการเทรนนิ่ง ราคาในการลงทุนขึ้นอยู่กับสเกวของการซักรีด มีตั้งแต่เครื่องเล็กจนถึงเครื่อง 100 กิโล เราจะทำวิจัยในกลุ่มลูกค้าตรงนั้น ถึงความต้องการและมีแรงจ่ายอย่างไร รับบริการได้ในราคาอย่างไร เราจัดรูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์ให้เป็นในลักษณะการดีไซส์ ให้ฟิกกับผู้ลงทุนและความต้องการของลูกค้า
ระยะเวลาในการคืนทุน
จุดคุ้มทุนจะขึ้นอยู่กับการลงทุน เรื่องของการตกแต่งร้าน เรื่องของอุปกรณ์ อยู่ที่ประมาณ 10 เดือนถึง 1 ปีครึ่ง เราจะมีการทำรเซอเวย์พื้นที่ ที่เขาจะลงทุน และปรึกษากันก่อนโดยผู้ที่สนใจต้องเสียค่าแฟรนไชส์ 1 แสน 5 หมื่นบาท ค่าตกแต่ง 2 แสนบาท ตกแต่งหน้าร้านให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน มีการอบรมพนักงาน และระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อเก็บฐานข้อมูลลูกค้า ในอนาคตระบบคอมพิวเตอร์จะพัฒนาให้เป็นออนไลน์ถึงกันทุกสาขา
นอกจากนี้ก็มีค่าการทำโปรโมชั่นแต่ละเดือน ค่าใบปลิวต่างๆ อีกเดือนละ 1 พันบาท โดยมีอายุสัญญา 3 ปี หรือจะสะดวกแยกไปทำเองก็ได้ เพียงแต่บอกเราให้รู้ด้วย เราก็จะขอเก็บโลโก้และสัญลักษณ์กลับคืน เราจะไม่เก็บเงินเพิ่มอีก
ส่วนการคืนทุนเร็วที่สุด 10 เดือน ถ้าทำเลดี ซึ่งสาขาของตัวเองตอนนี้รายได้ต่อเดือนต่อสาขาหักค่าใช้จ่ายแล้ว ก็ได้ประมาณ 5 หมื่นบาทขึ้นไป
การช่วยเหลือหรือการประชาสัมพันธ์ให้กับแฟรนไชส์ซี
เราช่วยเหลือตั้งแต่หาโลเคชั่น คุยในเรื่องการติดต่อพื้นที่เช่าให้ จัดการเทรนนิ่งการตลาด และดูแลหลังจากที่ดำเนินธุรกิจไปแล้ว คือให้คำแนะนำตลอดสัญญา
* การฝึกอบรม เราจะมีการฝึกอบรมกันทั้งระบบตั้งแต่ลูกค้าเข้ามา การจัดการหน้าร้านคือการให้การบริการ ความสามารถในการที่จะบริการ โปรแกรมการสื่อสารต่าง ๆ การรับงานรวมถึงดูทั้งระบบ
* แผนงานด้านการตลาด การตลาดเราทำอยู่สม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นในช่วงปีใหม่ งานเทศกาลสำคัญต่าง ๆ ที่เราคาดหวังว่าลูกค้าจะมาใช้บริการในส่วนของเราเยอะ คือในเรื่องของระบบการจัดการด้านคอมพิวเตอร์สามารถทำให้เราวิเคราะห์ได้ว่าช่วงไหนเราต้องการการตลาดแบบไหนตรงนี้จะช่วยได้และจะตรงกับความต้องการของลูกค้าด้วย
ข้อแนะนำสำหรับผู้สนใจ
จะต้องมีเซ้นของการเป็นเจ้าของกิจการ และก็มีศึกษาหาข้อมูลในการที่จะลงทุนไม่ใช่ว่าลงทุนโดยที่เราไม่รู้ธรรมชาติของธุรกิจหรืออะไรเลยก็คืออยากให้ผู้ลงทุนศึกษาหาข้อมูลตรงนี้ด้วย และก็มีความใจมีพื้นฐานในการประกอบการตรงนี้ด้วย
|